USDCAD คู่นี้เป็น pattern แบบ Rising Wedge โดยรูปแบบราคาจาก Time frame 4 ชั่วโมง รูปแบบถูกเบรกทะลุแนวรับไปแล้ว ในระยะสั้นมีแนวโน้มที่ราคาจะลงไปทดสอบที่บริเวณแนวรับระดับ 1.2707มีจุดทำกำไรที่บริเวณใกล้ๆแนวรับช่วง 1.2744 - 1.2707และจุดตัดขาดทุนควรสูงกว่าแนวต้านที่บริเวณระดับ 1.2855
In the business world, the rearview mirror is always clearer than the windshield.- Warren Buffett -เราสามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ในอดีตได้ชัดเจนกว่า การทำนายอนาคต
บรรยากาศของการลงทุนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อไม่กี่วันมานี้ จากที่ในสัปดาห์ก่อนมีประเด็นร้อนคือเรื่องการเปลี่ยนไปใช้นโยบายการเงินแบบหดตัวของ Fed เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ จนกระทั่งมีประกาศค้นพบสายพันธุ์ใหม่ของ COVID-19 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าจะแพร่ระบาดรุนแรงอีกหรือไม่
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เผยแพร่อยู่ในเวลานี้ คือ เป็นเชื้อที่ติดต่อได้ง่ายขึ้นและสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของแอนติบอดี รวมทั้งอาจต้านทานต่อวัคซีน อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์ชี้แจงว่ายังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะสรุปว่าสายพันธุ์ใหม่นี้เป็นอันรายมากกว่าเดิมตามที่มีการนำเสนอข่าวหรือไม่
ความเคลื่อนไหวของตลาดจึงเป็นผลจากความตื่นตระหนกในช่วงแรก แต่ต่อมากลับดูเหมือนว่าเชื้อสายพันธุ์ใหม่ไม่ได้มีความรุนแรงมากนัก จนอาจไม่ต้องกลับไป Lockdown เป็นวงกว้างเหมือนในอดีตอย่างที่หลายฝ่ายกังวล เพราะแม้ว่าจะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิตมากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้จริงก็จะทำให้บรรยากาศการลงทุนผ่อนคลายลง ส่งผลบวกต่อทรัพย์สินความเสี่ยงสูง และลดอุปสงค์ต่อทรัพย์สินประเภท safe haven
ดังนั้น...
รู้ทันตลาด - ใช้เวลาในการศึกษาคู่สกุลเงินต่างๆและสิ่งที่ส่งผลกระทบ ก่อนที่คุณจะใช้เงินลงทุนซึ่งเป็นการลงทุนในเวลา ที่สามารถช่วยประหยัดเงินคุณได้อย่างมากCr. Tickmill Thailand
USDCAD คู่นี้เป็น pattern แบบ Channel Up โดยรูปแบบราคาจาก Time frame 4 ชั่วโมงในระยะสั้นมีแนวโน้มที่ราคาจะลงไปทดสอบที่บริเวณแนวรับระดับ 1.2647มีจุดทำกำไรที่บริเวณใกล้ๆแนวรับระดับ 1.2647 และจุดตัดขาดทุนควรสูงกว่าแนวต้านที่บริเวณระดับ 1.2799
LIQUID MARKET เป็นรูปแบบหนึ่งของตลาดที่มีสภาพคล่องสูง มีจำนวนผู้ซื้อและผู้ขายมากเพียงพอที่จะทำให้ราคามีการเคลื่อนไหวเป็นปรกติทุกการซื้อขายไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
วันนี้ตลาดเงินตราต่างประเทศในภาพรวมมีการปรับฐานลง เช่นเดียวกับตลาดน้ำมัน และดอกเบี้ยพันธบัตรของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ สะท้อนถึงบรรยากาศของการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง โดยดอลลาร์สหรัฐฯ ก็อ่อนค่าลงด้วยแม้ว่าล่าสุดจะมีฐานะเป็นทรัพย์สินปลอดภัย (safe heaven) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับเงินเยนที่มีภาวะ oversold และเงินฟรังก์สวิส มีการเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้น ส่วนสกุลเงินที่มีความสัมพันธ์กับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก (pro-cyclical currencies) อ่อนค่าลงชัดเจน ซึ่งยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีความเป็นไปได้มากที่สุดว่าเป็นเพราะการกลายพันธุ์ของเชื้อ COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในแอฟริกาใต้ โดยหลายประเทศได้สั่งระงับเที่ยวบินไปยังพื้นที่ดังกล่าว เป็นสัญญาณว่าประเทศอื่นๆ อาจดำเนินการตามในระยะต่อไป บรรยากาศโดยรวมจึงเปลี่ยนทิศทางเป็นขาลง ซึ่งในระยะสั้นนักลงทุนจะให้ความสนใจข่าวสารเกี่ยวกับ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ และการปรับปรุงพัฒนาวัคซีน ที่จะเป็นปัจจัยกำหนดมาตรการควบคุมโรคและการเดินทางในประเทศต่างๆ
ดอลลาร์สหรัฐฯ มีทิศทางแข็งค่าชัดเจน หลังจบการประชุม FOMC ประจำเดือน พ.ย. เมื่อเย็นวานนี้ ซึ่งมีการยืนยันเรื่องมาตรการลด QE โดย Fed มีมุมมองว่าต้องปรับนโยบายให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น หากมีความจำเป็นก็จะปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการรับซื้อสินทรัพย์ และเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ถ้าเงินเฟ้อยังขยายตัวมากกว่าระดับคาดการณ์
ทั้งนี้ ผู้บริหาร Fed ต่างเห็นพ้องกันว่าจะไม่ลังเลในการดำเนินการใดๆ ตามความเหมาะสมเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงในระยะยาวต่อเสถียรภาพของราคาสินค้าและเป้าหมายในภาคการจ้างงาน และท่าทีดังกล่าวของที่ประชุม FOMC มีขึ้นหลังจากรายงงานตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวของสหรัฐฯ ออกมาเป็นบวก โดยเฉพาะเงินเฟ้อกับภาคการค้าปลีก
สำหรับระดับการปรับลด QE ในเบื้องต้น ซึ่งกำหนดมูลค่าไว้ที่ 15,000...
ตลาดหุ้นสามารถผันผวนอย่างไร้เหตุผล ได้นานกว่าที่คุณคิดหรือสามารถทำกำไรได้ - John Maynard Keynes -
BID PRICE (ราคาเสนอขาย)คือ ราคาที่เทรดเดอร์ ยินดีขาย คู่สกุลเงิน