ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง แม้ว่าเมื่อวานนี้นายเจโรม เพาเวล (Jerome Powell) ประธาน Fed จะได้รับการเสนอชื่อจากรัฐสภาให้ดำรงตำแหน่งเดิมต่อ เนื่องจากนายเพาเวลแถลงความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ซึ่งระบุว่าเงินเฟ้อในปัจจุบันกำลังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ เพราะส่งผลกระทบต่อระดับการจ้างงานและการขยายตัวในระยะยาวของเศรษฐกิจ โดยนายเพาเวลกล่าวว่า “ตลาดแรงงานจะมีเสถียรภาพเมื่อเศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อเนื่องในระยะยาว และการขยายตัวดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อระดับราคาสินค้ามีเสถียรภาพ”
อย่างไรก็ตาม นายเพาเวลให้ความเห็นต่อการวางแผนบัญชีงบดุลของ Fed ไปในเชิงบวก ระบุว่า Fed จะมีการชำระหนี้ก่อนกำหนด และเร็วกว่าห้วงที่ผ่านมา อีกทั้งแถลงต่อรัฐสภาว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในสถานการณ์โรคระบาดไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป และ Fed มีความพร้อมที่จะดำเนินนโยบายการเงินแบบหดตัวหลังจากนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการรักษาเสถียรภาพของระดับราคาสินค้า ซึ่งแม้นายเพาเวลจะไม่ได้ระบุกำหนดเวลาที่แน่นอนของการออกมาตรการใดๆ ตามแนวทางดังกล่าว แต่นักลงทุนเชื่อว่าจะหมายถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.65
ทั้งนี้ การที่นายเพาเวลไม่ส่งสัญญาณยืนยันกำหนดเวลาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. ได้ส่งผลให้นักลงทุนหันไปสนใจข้อมูลอื่นแทน โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งจะมีการรายงานในวันนี้ และคาดว่าจะเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินตลอดสัปดาห์
Technical Views
USD/JPY ปรับฐานลงจาก 116.07 มาอยู่ที่แนวรับ 115.45 ซึ่งยังมีโอกาสจะแข็งค่ากลับขึ้นไปยังบริเวณ 117.02 ได้ แต่เมื่อพิจารณาค่าอินดิเคเตอร์ต่างๆ ที่แสดงแนวโน้มขาลง ก็มีแนวโน้มว่าการปรับฐานครั้งนี้อาจยืดเยื้อต่อ โดยมีโอกาสจะอ่อนค่าลงไปยังแนวรับถัดไปที่บริเวณ 114.70 และ 112.72 ได้ตามลำดับ
ติดตาม Blog Tickmill Thailand ได้ที่ https://www.tickmill.com/th/blog/