S&P 500 ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องหลังทำจุดสูงสุดใหม่ 14 ครั้งในปีนี้ โดยมีแรงหนุนจากดีลการค้ากับญี่ปุ่นและคาดว่าจะตามด้วย EU รวมถึงกำไรบริษัทรายไตรมาสที่ดีและนโยบายรัฐที่ชัด แม้ P/E จะอยู่ระดับสูงแต่นักลงทุนยังถือเงินสดไว้มาก จึงยังมีโอกาสพุ่งต่อ (Right Tail Risk) แนวโน้มยังเป็นขาขึ้นจาก VWAP และโครงสร้าง One-Time Framing Up รายวัน–เดือน ขณะที่โซนสำคัญอยู่ที่ 6380/90 หากยืนได้มีลุ้นไปถึง 6515 แต่หากหลุด 6335 ควรจับตาแรงขายจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ โดยเฉพาะในกลุ่มเทคฯ