22 เม.ย.63
สัปดาห์นี้อังกฤษและ EU กลับมาหารือกันต่อในประเด็น Brexit อีกครั้ง หลังจากต้องหยุดไปชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายเชื่อว่ายังมีเวลามากพอสำหรับการเจรจา จนกว่าจะถึงกำหนดสิ้นสุดใน 31 ธ.ค.63
อย่างไรก็ตาม นรม.อังกฤษ เคยประกาศว่าจะยกเลิกการเจรจาหากไม่ได้ร่างข้อตกลงภายในเดือน มิ.ย.63 นี้ แต่จากเหตุการณ์ในปัจจุบันทำให้ นรม.อังกฤษ ยังไม่มีประกาศใดๆ ออกมาเพิ่มเติม จึงไม่มีความแน่นอนว่าเงื่อนไขดังกล่าวจะเป็นไปตามเดิมหรือไม่ และทำให้มีคาดการณ์ว่าทางการอังกฤษคงไม่ต้องการเสี่ยงตัดสินใจ ในทางที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่ลงกว่าเดิมด้วยการยกเลิกเจรจา Brexit ก่อนกำหนด
1) ตลาดหุ้นเอเชียซบเซาลงตามหลัง Wall Street ที่ปิดลบเมื่อวานนี้
2) ราคาน้ำมันดิบ WTI ติดลบ จากปริมาณที่ล้นตลาดเพราะการบริโภคหดตัวลง
3) ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการงดรับคนเข้าเมืองชั่วคราว เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 และรักษาตำแหน่งงานในประเทศไว้ให้พลเมืองสหรัฐฯ
4) สหรัฐฯ มีแนวโน้มจะอนุมัตินโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่เร็วๆ นี้
5) อัตราการจ้างงานในอังกฤษเพิ่มขึ้น 176,000 ตำแหน่ง...
16 เม.ย.63
ราคาน้ำมันยังคงเป็นขาลงต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยทำราคาต่ำสุดใหม่ในรอบปี 63 เนื่องจากมีปริมาณที่ล้นตลาดเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไรเทขายหนักขึ้น หลังจากที่สถานการณ์โรคระบาดผ่อนคลายลงเล็กน้อยเมื่อไม่นานนี้
ส่วนอีกปัจจัยสำคัญที่กดดันให้ราคาน้ำมันตกต่ำ ก็คือผลการประชุมครั้งล่าสุดของกลุ่ม OPEC+ ซึ่งมีมติเห็นชอบให้ลดกำลังการผลิตลง 10 ล้านบาร์เรล/วัน แต่เม็กซิโกกลับมีข้อแม้ว่าจะลดโควตากำลังการผลิตของตนเองลงแค่ 100,000 บาร์เรล/วัน (น้อยกว่าที่ควรจะเป็นไปตามข้อตกลง 400,000 บาร์เรล/วัน สำหรับประเทศเม็กซิโก)
การผลิตในปริมาณที่มากเกินโควตาของเม็กซิโก จะส่งผลให้กำลังการผลิตรวมของกลุ่ม OPEC+ ลดลงเพียง 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน (จากเป้าหมายเดิมที่ต้องการลดให้ถึง 10...
15 เม.ย.63
ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน มีความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อ 15 ม.ค.63 ซึ่งมีการลงนามในข้อตกลงเฟส 1 หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายเจรจากันได้ข้อยุติเมื่อเดือน ต.ค.62 ว่าจีนจะเพิ่มปริมาณการซื้อสินค้าสหรัฐฯ และยอมให้สหรัฐฯ เข้ามาขยายขยายตลาดการค้าในจีน แลกกับการที่สหรัฐฯ จะยกเลิกการตั้งกำแพงภาษี ซึ่งความตกลงในเฟสแรก นำไปสู่แผนการเจรจาเฟส 2 ซึ่งทั้งสองฝ่ายหวังว่าจะสามารถยกเลิกมาตรการภาษีต่อกันและกลับมาค้าขายกันอย่างเสรีตามเดิม
แต่แล้วก็เกิดเหตุไวรัส COVID-19 แพร่ระบาดในเดือน ต.ค.62 ทำให้การเจรจาต้องหยุดชะงักลง แนวโน้มความสัมพันธ์ของสองมหาอำนาจจึงยังมีความไม่แน่นอน แม้เมื่อเดือน มี.ค. ปธน.สีจิ้นผิง และ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์...
ทองคำ
นโยบายแทรกแซงเศรษฐกิจของ Fed ส่งผลให้ราคาทองคำเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง จากการที่อัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อตกต่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หลังมีการใช้มาตรการ QE แบบไม่จำกัดวงเงิน อีกทั้งมีการอัดฉีดงบประมาณ 2.3 ล้านล้าน ดอลล่าร์ฯ เพื่อปล่อยกู้ให้ภาคธุรกิจ รวมทั้งซื้อพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่น และ Junk-bonds (หนี้ที่มีความเสี่ยงสูง) ของเอกชน โดยล่าสุดอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ประจำเดือน มี.ค. ออกมาอยู่ที่ -0.4% ประกอบกับภาวะราคาน้ำมันตกต่ำและอัตราการว่างงานที่สูงขึ้น ได้ส่งผลเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ
Technical & Trade...
แนวโน้มเด่นของสัปดาห์นี้ :
1) Fed ออกมาตรการเสริมสภาพคล่องเพิ่มเติม
Fed ออกมาตรการเพิ่มวงเงินกู้ให้ภาคธุรกิจเป็นจำนวน 2.3 ล้านล้านดอลล่าร์ฯ ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายฉุกเฉินเพื่อรับมือสถานการณ์ไวรัส ซึ่งได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นไปยังกลุ่มธุรกิจ SME รวมถึงรัฐบาลท้องถิ่นและเมืองที่ประสบความยากลำบาก
2) กลุ่ม OPEC+ ร่วมมือลดกำลังการผลิต
หลังจากการประชุมเมื่อเดือน มี.ค. ประสบความล้มเหลวและส่งผลให้ราคาน้ำมันตกต่ำ แต่ในที่สุดกลุ่ม OPEC และรัสเซียได้เห็นชอบข้อตกลงลดกำลังการผลิต...
7 เม.ย.63
วันนี้ตลาดหุ้นเอเชียปิดการซื้อขายในแดนบวก เช่นเดียวกับฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันและค่าเงินรูเบิลของรัสเซียที่แข็งค่ามากขึ้น ... ทำให้เกิดคำถามว่า เหตุใดราคาทองคำจึงแข็งค่าต่อเนื่องทั้งที่ตลาดหุ้นฟื้นตัว ?
ทั้งนี้ หากพิจารณาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Treasury Inflation Protected Securities—TIPS) จะพบว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ ... เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง หรือ Real interest rate ซึ่งไม่นับรวมผลกระทบของเงินเฟ้อ ... มีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงข้ามกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยการลดลงของ Real interest rate...
แนวโน้มเด่นของสัปดาห์นี้ :
1) ภาคการผลิตของจีนฟื้นตัว
ดัชนี
PMI ในภาคการผลิตของจีนประจำเดือน มี.ค. ฟื้นตัวขึ้นมาถึง 52.3
จากที่คาดการณ์ไว้เพียง 44.9 พร้อมกับที่ทางการจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนได้ออกมาเตือนว่ายังไม่ควรด่วนสรุปจากเพียงดัชนี PMI เท่านั้น โดยต้องรอดูผลตัวเลขสถิติอื่นๆ
ประกอบกัน เพื่อให้ประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจจีนได้ถูกต้อง
2) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ถดถอย
ดัชนี PMI...
31 มี.ค.63
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนประจำเดือน มี.ค.63 ออกมาอยู่ที่ 52
สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้เพียง
45 เพราะสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ทำให้ภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากกมาตรการปิดประเทศ
ส่งผลให้ดัชนี Manufacturing
PMI เดือน ก.พ.
ลดลงเหลือ 35.7 ซึ่งต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม
แม้ปัจจุบันจะเริ่มมีการฟื้นตัวแล้ว แต่ก็น่าจะยังไม่กลับมาถึงขั้นขยายตัวได้ในเร็ววันนี้
โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า การขยายระยะเวลาใช้มาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดไวรัสอย่างต่อเนื่อง
เป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้ภาคการผลิตฟื้นตัว เช่น ตัวเลขจำนวนคำสั่งซื้อและการจ้างงานที่เพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อน
โดยหลังจากนี้การฟื้นตัวมีแนวโน้มจะเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น
แม้จะไม่อาจถือได้ว่าเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะเมื่อคิดเป็นค่าเฉลี่ยของ PMI จนถึงเดือน มี.ค. นี้ ยังพบว่าอยู่ที่ระดับ 43.9 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติที่ 50
ก่อนมีเหตุการณ์ไวรัส...
25 มี.ค.63
Fed เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่าจะให้บรรษัทการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง
BlackRock Inc. มาช่วยบริหารมาตรการ QE ตามที่ Fed มีโครงการจะรับซื้อหนี้สินของกิจการต่างๆ
เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ภาคธุรกิจ
โดย Fed แถลงชี้แจงว่า
BlackRock Inc. เป็นองค์กรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการหนี้สินของบริษัทขนาดใหญ่
อีกทั้งมีความพร้อมทางเทคโนโลยีและแนวปฏิบัติที่มีศักยภาพสูง
ตลอดสัปดาห์ก่อนหน้านี้ Fed ได้ประกาศหลายนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การใช้มาตรการ QE โดยไม่จำกัดวงเงินเพื่อซื้อพันธบัตรและหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้ต่างๆ โดยเฉพาะตราสารประเภท Mortgage-Backed Securities (MBS) ที่ Fed ตั้งวงเงินงบประมาณไว้คร่าวๆ ที่ 50,000 ล้านดอลล่าร์ฯ...