EUR/USD ปิดตลาดเมื่อวานโดยอ่อนค่าลง 0.5% เนื่องจากผลของสถานการณ์ Brexit โดย นาย Michel Barnier หัวหน้าคณะเจรจา Brexit ฝ่าย EU เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เขาประเมินความเสียหายจาก Brexit ต่ำเกินไป โดยหลังอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปแล้ว คงต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะสามารถหาคู่ค้าใหม่มาทดแทน ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครอธิบายให้เขาฟังได้เลยว่า Brexit ทำให้เกิดผลดีอะไรบ้าง
นอกจากนี้ EUR/USD และสกุลเงินของประเทศกลุ่ม G7 ยังได้รับผลกระทบจากการที่ดัชนีดอลล่าร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ (ยกเว้น AUD/USD กับ GBP/USD ที่แข็งค่าขึ้น 0.15% และ 0.05% ตามลำดับ) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากดัชนี PMI นอกภาคการผลิต (non-manufacturing sector) ประจำเดือน ต.ค.62 ซึ่งขยายตัวจาก 52.6 เป็น 54.7 จุด
สำหรับข่าวสารสำคัญวันนี้ จะมีการรายงานตัวเลขดัชนีค้าปลีกของฝั่งยุโรป และแถลงการณ์ของบอร์ด FOMC สหรัฐฯ ได้แก่ นาย Patrick Harker และ นาย John Williams
วันนี้กราฟราคา EUR/USD อ่อนค่าลงทะลุระดับ 1.1105 ลงมาอยู่ที่ 1.1065 และอาจทำจุดต่ำสุดใหม่ได้ต่ำกว่าเมื่อวาน
แนวรับล่าสุด : 1.1110, 1.1140, 1.1180
แนวต้านล่าสุด : 1.1065, 1.1045, 1.1000
แนวโน้มหลัก : ปรับฐานขึ้นมาที่ 1.1110 ก่อนเป็นขาลงต่อไปถึง 1.1045
ความเป็นไปได้อื่น : อ่อนค่าจากระดับปัจจุบันลงไปถึง 1.1045 โดยไม่ปรับฐานก่อน
คำแนะนำ : แม้ข่าวสารในด้านพื้นฐานจะยังคงเป็นกลาง แต่ปรากฏสัญญาณขาลงชัดเจนในกราฟ จึงสามารถ short ได้ที่ใกล้บริเวณ 1.1110
————————————–
สนับสนุนข้อมูลโดย FortFS
https://www.facebook.com/ffs.trading.th/