Home Fundamental EUR และ GBP แข็งค่าขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจ

EUR และ GBP แข็งค่าขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจ

4813
0

19 พ.ค.64

ตลาดหุ้นเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ เคลื่อนไหวในแดนลบ โดยดัชนีดอลล่าร์สหรัฐฯ แข็งค่ากลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่บริเวณ 89.70 ท่ามกลางบรรยากาศขาลงของการลงทุนในทรัพย์สินความเสี่ยงสูง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือแนวต้านหลักได้ เพราะมีปัจจัยลบจากกรณีอิหร่านและปริมาณน้ำมันสำรองที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ

ส่วนอัตราเงินเฟ้อและราคาผู้ผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นในอังกฤษและอีกหลายประเทศ ก็สะท้อนถึงภาวะขาดแคลนวัตถุดิบ และปัญหาในการจัดการ supply chain เนื่องจากธุรกิจต้องการเพิ่มสินค้าคงคลังเพื่อเร่งตอบสนองต่ออุปสงค์ของผู้บริโภคที่ขยายตัวตามการเปิดเศรษฐกิจ และความห่วงกังวลต่อภาวะขาดแคลนสินค้า ซึ่งยิ่งทำให้ราคาผู้ผลิตขยับสูงขึ้นจนเกิดผลกระทบไปถึงราคาผู้บริโภคด้วย อีกทั้งยังเป็นปัจจัยกดดันต่อธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ซึ่งล่าสุดหลายฝ่ายต่างเชื่อว่าธนาคารอังกฤษ (BOE) จะต้องเปลี่ยนท่าที หลังจากเงินเฟ้อในภาคค้าปลีกของประเทศออกมาสูงกว่าที่ประเมินไว้

ทั้งนี้ แม้ว่า USD กลับมาแข็งค่า แต่ GBP ก็ยังเป็นขาขึ้นต่อ และอาจมีโอกาสทำจุดสูงสูดใหม่ของปี 64 ได้ เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีสนับสนุน ได้แก่ สถิติการว่างงานและการขยายตัวของเงินเฟ้อในเดือน  เม.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการเคลื่อนไหวของ GBP ยังคงอยู่ต่ำกว่าเส้นค่ากลางของ bullish channel เช่นเดียวกับสกุลเงิน EUR ก็มีแนวโน้มแข็งค่าต่อ USD หลังจากหลายพื้นที่ในยุโรปเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาด ซึ่งมาถึงช้ากว่าสหรัฐฯ ไป 1-2 เดือน ดังนั้น บรรยากาศดังกล่าวจึงมีแนวโน้มจะคืนสู่ภาวะปกติ เมื่อเข้าสู่ระยะสุดท้ายของการผ่อนคลาย Lockdown  

สำหรับวันนี้ Fed จะเผยแพร่รายงานการประชุมของเดือน เม.ย. ซึ่งคาดว่าจะต้องมีมาตรการรับมือต่อความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ แต่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำตามเดิม ซึ่งอาจกลายเป็นปัจจัยลบต่อค่าเงิน USD ได้ อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดี ก็มีโอกาสจะเป็นปัจจัยบวกให้ USD ได้เช่นกัน ติดตาม Blog Tickmill Thailand ได้ที่ https://www.tickmill.com/th/blog/