หากเฟดจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจริงๆ เหตุใด ดอลลาร์ สหรัฐจึงยังคงฟื้นตัวขึ้นแข็งค่ามากที่สุดในรอบเกือบสามปี?
นักลงทุนกว่า 78% เชื่อว่าเฟดจะต้องปรับลด อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ลง 25 จุดเบสิสจนเหลือ 2.25 เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ แต่นักลงทุนรู้สึกว่าดอลลาร์ยังควรต้องเดินหน้าต่อไปอีก จึงผลักให้ดอลลาร์ไต่ขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่เก้าติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการฟื้นตัวที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วง 10 วันก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะได้รับชัยชนะในทำเนียบขาว
แล้วเหตุใดดอลลาร์จึงไม่ร่วงลงไปตั้งแต่มีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ? การปรับดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกหลังจากมีการปรับเพิ่มขึ้นถึงเก้าครั้งนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2015 เป็นต้นมาควรที่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แย่ลง ไม่ใช่ฟื้นตัวมาแข่งกับ “สงครามการค้า”
แน่นอนว่า การซื้อขายสกุลเงินย่อมได้รับผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เนื่องจากการวัดค่าของเงินสกุลหนึ่งๆ...
หากเป้าหมายของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ และบรรดาคณะกรรมการทั้งหมดคือความต้องการที่จะทำให้นักลงทุน องค์กรธุรกิจ และผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นว่าจะเศรษฐกิจจะขยายตัวได้อย่างยั่งยืนแล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่าพวกเขาประสบความล้มเหลวในภารกิจนี้อย่างแท้จริง
ขณะที่นายพาวเวลล์ออกมาให้ความเห็นที่สับสนและขัดแย้งในตัวเอง ตลาดหุ้นก็ดิ่งลงเรื่อยๆ เนื่องจากนักลงทุนในตลาดเป็นกลุ่มแรกที่มีสิทธิ์ แสดงความไม่พอใจ กับความล้มเหลวที่เฟดไม่ยอมแถลงว่าจะนำมาตรการใด มาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตต่อไป
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดต่ำลง 333.75 จุดหรือคิดเป็น 1.23% ในขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลง 1.09%
ผลงานที่ไม่น่าประทับใจ
เงินเยนญี่ปุ่น เป็นสกุลเงินที่มีความปลอดภัยสูง เกิดแข็งค่าขึ้นอีกครั้งเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก
เมื่อคืนนี้ทรัมป์ได้ประกาศในทวีตว่า เขากำลังเตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ เป็นต้นไป
ทรัมป์เผยว่า การประกาศครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่จีนไม่ยอมสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากสหรัฐฯ ตามที่เคยตกลงกันไว้ และแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของรัฐบาลสหรัฐฯ เพราะดูเหมือนว่าจีนจะไม่รีบร้อนอะไรกับการทำข้อตกลงเลย
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นตามมาหลังจากคณะรัฐบาลสหรัฐฯ และจีน ได้สรุปการเจรจาครั้งล่าสุดเมื่อวันก่อน แต่กลับไม่มีการรายงานความคืบหน้าใดๆ จากการเจรจาในสัปดาห์นี้อย่างชัดเจน
เทคนิคที่ใช้วิเคราะห์ "Gann Swings + Price Action"
กราฟรายวัน :ชัดเจนแล้วว่าการกลับแนวโน้มเมื่อวานเป็นกับดักขาลง (Bearish trap) และในวันนี้ทองคำแสดงภาวะขาขึ้นตามเดิม (แต่ยังเกิด downswing ได้ที่บริเวณ 1410.00 เพราะข่าวสารจากฝั่งสหรัฐฯ ในวันนี้) ดังนั้น จึงอาจเข้าซื้อได้ที่จุดสูงสุดของราคาใน session ที่แล้วในบริเวณ 1449.00-1452.62
H1-chart :กราฟราคาห้วง 1Hr เป็นขาขึ้นแต่ยังไม่ปรากฏรูปแบบที่ชัดเจน...
การประชุม
FOMC ครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง
0.25% ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่ปี 51
โดยให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องผลกระทบจากสถานการณ์ทางการค้าระหว่างประเทศ
และภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกโดยรวม
แต่แม้
Fed จะลดดอกเบี้ยลง ดอลล่าร์สหรัฐฯ กลับยังคงแข็งแกร่ง
เพราะคณะผู้บริหาร FOMC ต่างประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจอเมริกันว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
พร้อมทั้งประกาศว่าจะมีผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง
โดยไม่ได้ระบุว่าการปรับเปลี่ยนแนวทางดังกล่าว
จะเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะถดถอยในระยะยาวแต่อย่างใด
ดังนั้น
ราคาทองคำจึงปรับลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์
สวนทางกับดัชนีค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าสูงสุดในรอบ 2 ปี
อย่างไรก็ตาม
ตลาดทองคำก็ยังมีปัจจัยบวกที่สำคัญสนับสนุนอยู่ นั่นคือ
ความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจ-การเมืองระหว่างประเทศ อาทิ ประเด็นสงครามการค้า
และกรณี Brexit
สำหรับกราฟวันนี้
ราคาทองคำปรับลดลงทะลุแนวรับ 1415.00 และเกิดแนวรับใหม่อยู่ที่
1400.00...
เทคนิคที่ใช้วิเคราะห์
"Trend Potential"
กราฟรายวัน :ตลาดยังคงเป็นขาลง โดยทำราคาปิดต่ำกว่า Lower Bollinger band ต่อเนื่องกัน 2 วัน ซึ่งทำให้มีแนวโน้มจะอ่อนค่าต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังมีการปรับฐานขึ้นแบบ local upward ที่บริเวณ 1.2281
H4-chart:Lower Bollinger band...
เทคนิคที่ใช้วิเคราะห์
"Gann Swings + Price Action"
กราฟรายวัน :เกิด corrective upswing อย่างสมบูรณ์ โดยมี bullish inside bar และสัญญาณทางเทคนิคที่ดี จากการที่ราคาเคลื่อนไหวไปทดสอบ pivot-zone ในบริเวณ 1.1182-1.1199 ทำให้ตลาดมีแนวโน้มจะเป็นขาขึ้นต่อในวันนี้
H1-chart
:
ภาพรวมของห้วง 1Hr ยังเป็นขาขึ้น
แต่ก็ยังมีการปรับฐานลง โดยมีช่วง PPZ (price...
EURUSD 30 JUL 2019
คู่นี้ในภาพใหญ่ราคายังเป็นแนวโน้มขาลงอยู่ เนื่องจากเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าแนวต้านสำคัญที่ช่วง 1.1420 - 1.1450 โดยสัปดาห์ที่ผ่ามาราคาเกิดเป็น mother bar หางยาวจากบริเวณแนวรับสำคัญ 1.1110 ถึงบริเวณแนวต้าน 1.1190 หากราคาเบรกด้านใดได้ก็มีโอกาสจะไปทิศทางนั้นต่อ ตอนนี้แนวต้านแรกยังคงอยู่ที่ช่วง 1.1175 - 1.1190 ส่วนแนวรับแรกอยู่ที่ระดับ 1.1140
นักลงทุนสามารถพิจารณาหาจังหวะขายที่บริเวณแนวต้าน หรือเมื่อราคาเด้งขึ้น โดยดูสัญญาณขายจากกราฟรายวันหรือราย 4 ชั่วโมงประกอบ เป้ามีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ระดับ 1.1110...
ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ โดยวันนี้ดัชนี
Brent เปิดตลาดขยายตัว 0.65%
และ WTI ขยายตัว 0.70% เนื่องจากข่าวสารการเจรจาที่กรุงปักกิ่งของสหรัฐฯ-จีน
ที่แม้ตลาดจะไม่คาดหวังว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ววัน แต่ก็ส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการเจรจาในขั้นต่อไป
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์ว่า Fed จะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25%
ในวันพุธนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง กลายเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
และจะดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้มากขึ้น เพราะราคาน้ำมันถูกลงเมื่อคิดเป็นเงินสกุลอื่น
สำหรับวันนี้
จะมีรายงานตัวเลขน้ำมันสำรองจาก API ตามด้วยตัวเลขอย่างเป็นทางการจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ
ส่วนกราฟวันนี้ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 62.30-64.00 และมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นไปได้ถึง 66.00
แนวต้านปัจจุบัน : 64.00,
66.60, 67.30
ตลาดทั่วโลกได้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ Brexit ที่ 'ไร้ข้อตกลง' ในวันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมาค่าเงินปอนด์ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว การอ่อนค่าลงของสกุลเงินสหราชอาณาจักรครั้งนี้ ตามรายงานของสื่อคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มสูงที่ Brexit จะไม่มีการทำข้อตกลง
เงินปอนด์อ่อนค่าลดลงมากกว่า 1.0% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ บอริสจอห์นสัน ได้ขู่ที่จะถอนอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีการทำข้อตกลงในวันที่ 31 ต.ค. หากทางสหภาพยุโรป (EU) ยังไม่เลิกหัวแข็งและกลับมาเจรจากับอังกฤษเสียใหม่เงินปอนด์ได้รับแรงกดดันจากการขายอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับยูโรดอลลาร์และสกุลเงินหลักอื่น ๆ อัตราแลกเปลี่ยนปอนด์ต่อดอลลาร์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดที่ระดับ 1.2294 ในวันจันทร์ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 ...
