NZD: ดอลล่าร์สหรัฐฯ อ่อนค่าทำสถิติใหม่อีกครั้ง และเป็นปัจจัยบวกต่อคู่เงินกลุ่ม Commodity Currency (สกุลเงินของประเทศที่มีการส่งออกขนาดใหญ่ในประเภทวัตถุดิบเพื่อการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์) สำหรับ NZD ปัจจุบันมีช่วงแนวรับ/แนวต้านอยู่ระหว่าง 0.68-0.663 โดยในวันนี้แข็งค่าขึ้นมาถึง 0.3% อยู่ที่ระดับ 0.676 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของราคาในรอบกว่า 1 ปีที่ผ่านมา (แต่ในช่วงปิดตลาด NZD มีการปรับฐานกลับลงมาที่ 0.673) ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้จะมีข่าวสารที่สำคัญคือแถลงการณ์ของผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ซึ่งอาจมีการกล่าวถึงนโยบายดอกเบี้ยติดลบและอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่ามากเกินไป
USD: นักลงทุนคาดการณ์ว่า Fed จะยังใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป โดยปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนดอลล่าร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเกือบ 0.4% และดัชนีราคาลดลงต่ำกว่า 92 จุด ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยดังกล่าวทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ปี ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 0.705% อีกทั้งยังมีปัจจัยลบจากประเด็นการพิจารณานโยบายเยียวยาเศรษฐกิจฉบับใหม่ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ รวมทั้งกรณีการออกคำสั่งแบนแอพพลิเคชันจีน ทั้งนี้ นายริชาร์ด คลาริดา (Richard Clarida) รองประธาน Fed เปิดเผยว่า Fed ได้ปรับลดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ศูนย์ และจะใช้มาตรการรับซื้อทรัพย์สินต่อไปเพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ระบบเศรษฐกิจ โดยบอร์ดบริหารอาจตัดสินใจปรับเปลี่ยนการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวอีกครั้งในการประชุมประจำเดือน ก.ย.63 อย่างไรก็ตาม นายริชาร์ดเชื่อว่าขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับการควบคุมผลตอบแทนพันธบัตร หรือการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ
Technical View:
NZD/USD มีทิศทางแข็งค่าไปยังบริเวณ .6800 ในขณะที่ค่า momentum divergence รายวัน แสดงให้เห็นว่ามีแนวโน้มจะเกิดการปรับฐานลงมายังแนวรับ .6570 ทั้งนี้ หากราคาปิดในรอบวันทรงตัวอยู่เหนือ .6820 ได้ ก็มีโอกาสที่จะแข็งค่าต่อไปถึง .7000 ซึ่งเป็นระดับราคาจิตวิทยา