1. การเจรจาการค้า สหรัฐฯ-จีน ครั้งใหม่ส่อเค้าตึงเครียด
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคณะผู้แทนจีนได้เดินทางกลับปักกิ่งก่อนจบกำหนดการเจรจา ส่งผลให้นักลงทุนลดความคาดหวังว่าการทำข้อตกลงทางการค้าจะเสร็จสิ้นในเร็ววัน โดย ปธน.ทรัมป์ แจ้งว่าการเพิ่มปริมาณรับซื้อสินค้าเกษตรอเมริกันเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่เพียงพอที่จะเป็นเงื่อนไขให้ยอมรับข้อตกลงได้ เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่จำเป็นต้องหาข้อยุติ โดยเฉพาะการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในจีน ซึ่งสหรัฐฯ จะไม่ยอมเซ็นข้อตกลงแบบแยกเป็นรายประเด็น (Partial Agreement) แต่จะต้องเป็นข้อตกลงทางการค้าแบบเบ็ดเสร็จที่ครอบคลุมทุกประเด็นเท่านั้น (Comprehensive Agreement)
2. ซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มจะไม่สามารถฟื้นกำลังผลิตน้ำมันในเร็วๆ นี้
ผู้แทนบริษัท Aramco ของซาอุดิอาระเบียยอมรับว่า การฟื้นฟูความเสียหายของโรงกลั่นน้ำมันที่ถูกโจมตีเป็นไปอย่างล่าช้ากว่ากำหนด โดยอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ไม่ใช่เพียงแค่ 10 สัปดาห์ตามที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจต้องใช้งบประมาณหลายร้อยล้านดอลล่าร์ฯ และขณะนี้ทางบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับซัพพลายเออร์ต่างๆ รวมทั้ง Baker Hughes
นอกจากนี้ Wall Street Journal ได้รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวผู้นำกลุ่มกบฏในเยเมนว่า อิหร่านกำลังเตรียมโจมตีเป้าหมายใหม่ในซาอุดิอาระเบียเพิ่มเติม โดยเป็นข่าวสารที่กลุ่มกบฏได้แจ้งต่อนักการทูตต่างประเทศด้วย
3. ปธน.ทรัมป์ และ นรม.อังกฤษ อยู่ระหว่างหารือประเด็นข้อตกลงการค้า
ในวันพฤหัสบดี ที่ 26 ก.ย.62 นี้ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ และ นายบอริส จอห์นสัน นรม.อังกฤษ จะหารือทวิภาคีเพื่อกำหนดประเด็นความตกลงทางการค้าระหว่างสองชาติ ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งสองฝ่ายต้องการให้การลงนามแล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ ครั้งใหม่
————————————–
สนับสนุนข้อมูลโดย FortFS
https://www.facebook.com/ffs.trading.th/