ประชาชนจำนวนมากออกไปเข้าคิวเติมน้ำมันตามปั๊มในอังกฤษที่ไม่มีน้ำมันเหลือเพียงพอสำหรับจำหน่ายได้ทั่วถึง จนมีกระแสข่าวลือว่ารัฐบาลจะให้ทหารเข้ามาช่วยในการขนส่งน้ำมันไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ซึ่งเศรษฐกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัวจาก COVID-19 ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่กำลังมาถึง
ทั้งนี้ วิกฤตดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องของการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit ทำให้อังกฤษขาดแคลนคนงานขับรถบรรทุกเชื้อเพลิง ซึ่งต่างเดินทางกลับประเทศภูมิลำเนา ประกอบกับเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น แต่ผู้ประกอบการรายย่อยต่างปิดกิจการไปก่อนหน้านี้ในช่วงสถานการณ์โรคระบาด รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง BP ที่ได้ประกาศปิดสาขาปั๊มน้ำมันหลายแห่งเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยซ้ำเติมจากการที่ระดับเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ประกอบกับการนำเสนอข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทำให้ประชาชนต่างเร่งรีบไปเติมน้ำมันจนยิ่งเกิดภาวะขาดแคลนเป็นวงกว้าง และมีการคาดการณ์ว่า นรม.อังกฤษ อาจแก้สถานการณ์ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1) ให้วีซ่าชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษสำหรับคนงานขับรถบรรทุกเชื้อเพลิง
2) ปรับเปลี่ยนกฎระเบียบการแข่งขันในธุรกิจผู้ให้บริการน้ำมัน เพื่อเอื้อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการบริหารจัดการอุปทาน
3) ให้ทหารเข้ามาช่วยในขนส่งน้ำมัน (รัฐบาลอังกฤษออกมาปฏิเสธข่าวลือนี้)
Technical View : GBP/USD
ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) กำลังเผชิญแรงกดดันต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง รวมถึงส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะสูงขึ้นตามไปด้วย ความเสี่ยงดังกล่าวจึงทำให้เงินปอนด์อ่อนค่า โดย GBP/USD แสดงแนวโน้ม bearish และเคลื่อนไหวในรูปแบบ contracting triangle ซึ่งมีแนวรับหลักอยู่ที่ 1.3570 ซึ่งหลังจากนี้ยังมีโอกาสจะอ่อนค่าต่ำกว่าระดับดังกล่าวได้ หากพิจารณาจากอินดิเคเตอร์หลายตัวที่บ่งชี้ภาวะขาลง
ติดตาม Blog Tickmill Thailand ได้ที่ https://www.tickmill.com
