วันนี้เงินปอนด์เคลื่อนไหวแข็งค่าเพราะได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขการว่างงานที่ลดลงมาเหลือ 4.5% ขณะที่ค่าจ้างแรงงานโดยเฉลี่ยก็ขยายตัวได้ถึง 7.2% มากกว่าระดับคาดการณ์ซึ่งอยู่ที่ 6.9% นอกจากนี้ ยังมีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นกว่า 200,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 57
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เกิดความคาดหมายว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในสิ้นปีนี้ เพื่อบรรเทาภาวะเงินเฟ้อที่ตามมาจากการขยายตัวของราคาพลังงาน รวมทั้งผลกระทบจากการขาดสภาพคล่องในห่วงโซ่อุปทานสินค้าต่างๆ และการขาดแคลนแรงงานหลังการออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit
อย่างไรก็ตาม การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีผลกระทบกับคนที่ยังว่างงานจำนวนมาก ซึ่งเพิ่งถูกตัดความช่วยเหลือหลังจากสิ้นสุดโครงการจ่ายค่าจ้างช่วงพักงาน (furlough scheme) ที่รัฐบาลอุดหนุน ทั้งนี้ หากแรงกดดันต่อราคาสินค้าโดยทั่วไปยังคงขยายตัว ก็ยากที่ BOE จะนิ่งเฉยได้ต่อปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งล่าสุดดัชนีราคาผู้บริโภคในอังกฤษได้ขยายตัวสูงเกินเพดาน 2% ไปแล้วเกือบ 2 เท่า
สำหรับปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นาย David Ramsden รองผู้ว่าการ BOE และ นาย Michael Saunders กรรมการนโยบายการเงิน ได้เสนอให้ BOE ขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดเดิม ประกอบกับท่าทีของ นาย Andrew Bailey ผู้ว่าการ BOE ที่ตอบรับแนวทางดังกล่าว และพร้อมขึ้นดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีหากมีความจำเป็น ทำให้เกิดกระแสว่า BOE จะปรับอัตราดอกเบี้ยภายในปลายปี 64 ซึ่งเป็นประเด็นที่จะต้องติดตามกำหนดเวลาที่แน่นอนต่อไป
Technical Views
GBP/USD ยังเคลื่อนไหวไม่พ้นแนวต้านของ bear channel จากระดับราคาสูงสุดในรอบ 1 ปี (YTD) แม้ว่าจะแข็งค่าขึ้นมาจากบริเวณ 1.3461 ดังนั้น หลังจากนี้จึงมีแนวโน้มที่ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบเดิมต่อ ยกเว้นว่าจะสามารถแข็งค่าขึ้นมากกว่าจุดสูงสุดปัจจุบันที่บริเวณ 1.3676 ได้ โดยหากเกิดขึ้นจริงก็จะมี 1.38 เป็นจุดสำคัญของการเกิด upside level
ติดตาม Blog Tickmill Thailand ได้ที่ https://www.tickmill.com/th/blog/
