Home Fundamental จะหาโบรคเกอร์ที่ไม่เอาเปรียบเรา ดูอย่างไร ?

จะหาโบรคเกอร์ที่ไม่เอาเปรียบเรา ดูอย่างไร ?

4017
0

เมื่อคุณค้นหาใน google ว่า “โบรคเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุด” หรือ “โบรคเกอร์ฟอเร็กซ์ไม่คืนเงินให้” คุณจะเจอคำตอบได้เป็นล้านรายการ และคำตอบจะยิ่งเยอะมากกว่าสำหรับผลการค้นหาอันหลัง

การเทรดย่อมมีความเสี่ยงและขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดที่ยากจะคาดเดา ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่การฝากเงินเข้าไปแล้วรอให้ได้กำไรเท่านั้น แต่เทรดเดอร์ต้องเลือกจังหวะถอนเงินที่เป็นกำไรออกมาในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งในเวลานี้เองที่อาจจะมีโบรคเกอร์ฉวยโอกาสเอาเปรียบได้ โดยมีหลักในพิจารณาต่อไปนี้

1. ชื่อเสียง

การรีวิวเป็นสิ่งสำคัญมากและคุณต้องใช้วิจารณญาณในการค้นคว้าข้อมูล โดยดูได้จากเว็บไซต์ www.forexpeacearmy.com และ www.trustpilot.com ถ้าผลการรีวิวของโบรคเกอร์ใดมีแต่กระแสตอบรับในทางที่ดี ก็จะสามารถการันตีความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ต้องดูด้วยว่าโบรคเกอร์เหล่านั้นให้ความช่วยเหลือเทรดเดอร์ได้ดีหรือไม่ในเวลาที่เกิดปัญหา

2. องค์กรที่กำกับดูแล

การมีใบอนุญาตประกอบกิจการ (license) หมายความว่าโบรคเกอร์นั้นมีองค์กรที่คอยควบคุมหากเกิดปัญหาขึ้น หรือมีมาตรการรับผิดชอบให้ลูกค้าได้เงินคืน ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ

1) องค์กรที่มีระเบียบกฎเกณฑ์เข้มงวด มักจะอยู่ในกลุ่มประเทศยุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย หรือสิงคโปร์ เป็นต้น

2) องค์กรที่มีระเบียบกฎเกณฑ์ผ่อนคลายกว่า เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำธุรกรรม มักจะอยู่ในประเทศเบลีซ (Belize) หมู่เกาะเซนต์วินเซนต์ (Saint Vincent), หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน (British Virgin Island) หรือเขตแดนอื่นๆ ในภาคพื้นสมุทร

3) โบรคเกอร์ที่ไม่อยู่ภายใต้องค์กรกำกับดูแลใดๆ

ทั้งนี้ โบรคเกอร์ที่ดีอาจไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเสมอไป ตัวอย่างเช่น Tickmill ที่มีทั้ง license จากองค์กรกำกับดูแลในอังกฤษ ไซปรัส แอฟริกาใต้ และหมู่เกาะเซเชลส์ (Seychelles)

3 เงื่อนไขที่เป็นรายละเอียด

เทรดเดอร์ควรอ่านรายละเอียดของเงื่อนไขทั้งหมดให้รอบคอบ โดยเฉพาะข้อยกเว้นต่างๆ เกี่ยวกับการถอนเงินคืน จำนวนเงินที่ถอนได้สูงสุดต่อครั้ง หรือเงื่อนไขของการเทรดที่โบรคเกอร์จะไม่คืนกำไรให้ ซึ่งต้องตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี และสอบถามให้ชัดเจนผ่านบริการ live chat ซึ่งโบรคเกอร์ที่เป็นมืออาชีพควรจะมาตอบอย่างรวดเร็ว ดังเช่นที่ Tickmill เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้คอยตอบคำถามของเทรดเดอร์ รวมทั้งมีบริการตอบทางอีเมล์ด้วยสำหรับกรณีที่ปัญหามีความซับซ้อน

4. ทดลองใช้บริการ

ลองเทรดสัก 1 ครั้ง โดยฝาก-ถอนเงินในจำนวนไม่มาก เพื่อทดสอบดูว่าคุณตัดสินใจเลือกถูกแล้วหรือไม่

5. ค่าธรรมเนียมฝาก-ถอนเงิน

ธนาคาร โบรคเกอร์ หรือผู้ให้บริการ E-wallet มักจะรับผิดชอบค่าธรรมเนียมในการฝากเงินของลูกค้าเป็นปกติ แต่สำหรับค่าธรรมเนียมในการถอนเงินนั้น โบรคเกอร์ที่ดีก็ควรจะรับผิดชอบให้ลูกค้าเช่นเดียวกัน ดังเช่นที่ Tickmill ไม่คิดทั้งค่าธรรมเนียมการฝากเงินและการถอนเงิน

เนื่องจากไม่มีเกณฑ์สำเร็จรูปใดๆ ที่จะบอกได้ว่าโบรคเกอร์ไหนดีหรือไม่ดี ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้คือการค้นคว้าข้อมูลด้วยตนเอง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เทรดคนอื่นๆ รวมทั้งทดลองใช้บริการของโบรคเกอร์ดูก่อนตัดสินใจเลือก

เปิดบัญชีเทรดกับ Tickmill https://secure.tickmill.com/users/register