Home Fundamental แนวโน้มระยะสั้นสะท้อนความเสี่ยงของการเข้าซื้อ USD ช่วงสิ้นปี

แนวโน้มระยะสั้นสะท้อนความเสี่ยงของการเข้าซื้อ USD ช่วงสิ้นปี

1734
0

เมื่อวานนี้หุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในแดนบวกเฉลี่ยประมาณ 1.9% โดยมีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เติบโตโดดเด่น 2.4% ทั้งที่ยังไม่มีข่าวสารสำคัญที่ส่งผลต่อปัจจัยพื้นฐานออกมา ดังนั้น จึงคาดว่าการฟื้นตัวดังกล่าวอาจมีสาเหตุจากปัจจัยทางเทคนิค หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นเคลื่อนไหวลงไปหยุดที่ระดับ 50-DMA (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในรอบ 50 วัน) ทำให้เกิดสัญญาณปรับฐานขาขึ้น

ทั้งนี้ นักลงทุนพยายามมองข้ามประเด็นนโยบายก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ที่เสี่ยงจะถูกคัดค้านจากนักการเมืองพรรคเดโมแครต และอาจทำให้ขั้นตอนการอนุมัติจากรัฐสภาไม่ราบรื่นนัก อย่างไรก็ตาม หากหลังจากนี้ไม่มีข่าวสารด้านลบในแง่ปัจจัยพื้นฐานออกมา ก็มีแนวโน้มที่ดัชนีหุ้นจะปรับฐานอยู่ใกล้ระดับราคาสูงสุดต่อไป (4600-4700 จุด) ตลอดเดือน ธ.ค.64 ถึง ม.ค.65 ซึ่งความเสี่ยงหลักยังคงเป็นเรื่องสถานการณ์โรคระบาด ที่ส่งผลให้อังกฤษปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจลงแล้ว     

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็มีความเสี่ยงในระยะสั้น ตามที่ผลสถิติย้อนหลัง 5 ปี แสดงให้เห็นว่า USD จะอ่อนค่าในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ก่อนสิ้นปี จนถึงสัปดาห์แรกของปีใหม่ เนื่องจากบริษัทจำนวนมากจะถ่ายโอนเงินไปต่างประเทศด้วยเหตุผลด้านภาษี ดังนั้น การเข้าซื้อ USD ระยะนี้จึงมีความเสี่ยง ประกอบกับผลการประชุมธนาคารกลางที่เพิ่งผ่านมา พบว่ากำหนดเวลาลดปริมาณ QE ของ Fed และ ECB ทิ้งช่วงห่างกันมากขึ้น ซึ่งหากตลาดคาดหวังว่า Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มี.ค.65 ก็จะกลายเป็นปัจจัยหนุนให้ USD แข็งค่าได้ ขณะที่สถานการณ์ในยุโรปยังมีปัจจัยกดดันจากแนวโน้มของการกลับมาบังคับใช้มาตรการควบคุมโรค

อย่างไรก็ดี Fed เน้นว่ากำลังติดตามสถานการณ์เงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด ประเด็นดังกล่าวจึงจะยังคงเป็นที่สนใจในระยะต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.64) จะมีการรายงานดัชนี PCE (การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล) ซึ่งเป็นข้อมูลที่จะมีอิทธิพลต่อการประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อในสหรัฐฯ และอาจส่งผลเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น

ติดตาม Blog Tickmill Thailand ได้ที่ https://www.tickmill.com/th/blog/