Home Fundamental สกุลเงินยูโรมีสัญญาณอ่อนค่าต่อดอลลาร์สหรัฐฯ  

สกุลเงินยูโรมีสัญญาณอ่อนค่าต่อดอลลาร์สหรัฐฯ  

1636
0

ดัชนีตลาดหุ้น S&P 500 ทำระดับสูงสุดไปเมื่อวานนี้ แม้มีแนวโน้มว่า Fed จะลดการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยนักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรที่ต่ำลง และรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ เช่น Tesla ที่เพิ่งมีมูลค่าบริษัทขยายตัวเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจาก Hertz ซึ่งเป็นบริษัทรถเช่ารายใหญ่สั่งซื้อรถยนต์ Tesla 100,000 คัน ส่วน Facebook ก็มียอดผู้ใช้งานเติบโตต่อเนื่องแม้บริษัทจะอยู่ระหว่างถูกสอบสวน อีกทั้งยังประกาศจะซื้อหุ้นคืนเป็นมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ Twitter ก็มีรายได้เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะเป็นเช่นเดียวกันสำหรับ Alphabet กับ Microsoft ซึ่งจะเปิดเผยรายงานผลประกอบการในวันนี้

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมามีรายงานว่า 86.6% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 มีมูลค่าผลประกอบการสูงกว่าเป้าหมาย โดยมีเพียง 11.9% ที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น สอดคล้องกับแนวโน้มในตลาดเงินตราต่างประเทศ ที่ USD มีสัญญาณ upward movement หลังจากเคลื่อนไหวพ้นช่วง bearish channel ในกรอบ 2 สัปดาห์ รวมถึงดัชนี DXY ก็ปรับฐานขึ้นมาใกล้ถึงขอบ upper border โดยที่ยังไม่มีสัญญาณว่าแนวรับ 93.50 จะขยับลงต่อ  

จากผลประกอบการที่ออกมาเป็นบวกของบริษัทใหญ่ๆ ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ส่งผลให้ USD แข็งค่าต่อ EUR ในระยะนี้ ประกอบกับความผันผวนในราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นปัจจัยกดดันให้ธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) ต้องทบทวนระดับเงินเฟ้อคาดการณ์ใหม่ในระยะสั้น ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเด็นของการประชุมพรุ่งนี้ โดยหาก ECB ไม่มีมติออกมาชัดเจนว่าจะลดวงเงินของโครงการซื้อสินทรัพย์ภายในกรอบเวลาเมื่อไร ก็มีแนวโน้มจะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง และทำให้ EUR อ่อนค่า    

อนึ่ง ยังมีปัจจัยลบจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (IFO index) ซึ่งหดตัวติดต่อกันมานาน 4 เดือน นับถึง ต.ค.64 ก่อให้เกิดกระแสวิตกกังวลต่อภาวะ Stagflation ในเยอรมนีและยุโรป ดังนั้น โอกาสที่ ECB จะลดการผ่อนคลายนโยบายการเงินจึงมีความเป็นไปได้น้อยลงด้วย  

ติดตาม Blog Tickmill Thailand ได้ที่ https://www.tickmill.com/th/blog/