20 ต.ค.63
นักลงทุนเฝ้าติดตามข่าวสารการหารือนโยบายการคลังเพื่อเยียวยาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด หลังจากที่เมื่อวานนี้โฆษกรัฐสภาสหรัฐฯ แถลงกรอบเวลาของการหารือภายในกำหนด 48 ชม. โดยพรรคเดโมแครตเสนอวงเงินงบประมาณจำนวน 2.2 ล้านล้านดอลล่าร์ฯ ในขณะที่พรรครีพับลิกันยืนยันวงเงินงบประมาณเดิมเพียง 1.8 ล้านล้านดอลล่าร์ฯ
ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตมุ่งเป้าหมายที่จะเยียวยากลุ่มผู้ตกงานเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 รวมทั้งจะออกมาตรการยกเว้นภาษี (tax credits) แก่ครัวเรือนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ส่วนพรรครีพับลิกันนั้น ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าจะออกเช็คเงินสดมูลค่าสูงสุด 1,200 ดอลล่าร์ฯ จ่ายตรงถึงครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ (แต่ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการ)
ข่าวสารดังกล่าวสร้างความสับสนให้แก่ตลาด เนื่องจากก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ เคยกล่าวว่าจะไม่หารือเรื่องนโยบายการคลังจนกว่าจะจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จก่อน เพราะฝ่ายเดโมแครตเสนอวงเงินที่สูงกว่า แต่หลังจากนั้นไม่นาน ปธน.ทรัมป์ ก็เปลี่ยนท่าที โดยยืนยันว่าจะยังคงให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ทั้งประชาชนและธุรกิจขนาดเล็ก ดังนั้น สหรัฐฯ จึงมีการเดินหน้าหารือนโยบายดังกล่าวต่อ และมีความเป็นไปได้ที่จะได้ข้อยุติก่อนการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี งบประมาณที่ทั้งสองพรรคการเมืองเสนอมีความแตกต่างกันมาก จึงมีแนวโน้มว่าในที่สุดแล้วจะต้องมีการปรับลดวงเงินลงมา นอกจากนี้ งบประมาณมูลค่า 500,000 ล้านดอลล่าร์ฯ สำหรับเยียวยากลุ่มเป้าหมายพิเศษ ก็จะต้องผ่านการลงมติโดย ส.ว. ในวันที่ 21 ต.ค.63 ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภามีท่าทีคัดค้านอย่างชัดเจน จึงอาจเป็นปัจจัยลบต่อการพร้อมรับความเสี่ยงในการลงทุน ท่ามกลางภาวะการว่างงานสูงและสถานการณ์โรคระบาดที่กลับมารุนแรงขึ้น
เปิดบัญชีเทรดกับ Tickmill https://secure.tickmill.com/users/register